การใช้สารเคมีในสวนผลไม้
จากการเก็บข้อมูลครัวเรือนในปี พ.ศ. 2543 ชาวบ้านจำรุงพบว่าการทำเกษตรกรรมในชุมชนมีการใช้สารเคมีกันอย่างรุนแรง นอกจากจะตกค้างปะปนอยู่ในผลผลิตที่ได้ อยู่ในผืนดินที่อาศัยแล้ว สารเคมีเหล่านั้นก็ยังเข้ามาปะปนอยู่กระแสเลือดของทุกคนในชุมชนอีกด้วย ชุมชนบ้านจำรุงจึงสร้างกิจกรรมที่จะช่วยรณรงค์ให้ชาวบ้านตระหนักถึงความสำคัญของการลดการใช้สารเคมีกับพืชผลทางการเกษตร มีการจัดตั้งกลุ่มเกษตรพื้นบ้าน ทำโครงการเกษตรชีวภาพ โครงการผักพื้นบ้านปลอดสารพิษ สนับสนุนให้ชุมชนใช้ปุ๋ยอินทรีย์และน้ำหมักชีวภาพแทน เพื่อชำระล้างสารเคมีตั้งแต่จุดเริ่มต้นของวงจรการผลิตและบริโภคในชุมชน ผู้ใหญ่บ้านเล่าว่าโรคภูมิแพ้ที่เป็นกันมากในหมู่คนเมือง เริ่มแพร่กระจายเข้ามาถึงเขตชุมชนนอกเมือง ส่วนหนึ่งนั่นก็เพราะอาหารที่เราทานเข้าไป อากาศที่เราหายใจมีแต่สารเคมีปนเปื้อนเป็นจำนวนมาก โรคภูมิแพ้เป็นโรคที่ทำให้ร่างกายของเราทำงานได้น้อยลง ท่องเที่ยวได้น้อยลง และมีความสุขน้อยลง จากที่ชุมชนเริ่มทำร้ายผืนแผ่นดินด้วยสารเคมี ชุมชนก็จะอยู่ไม่ได้ด้วย ความสมดุลจากธรรมชาติเป็นเพียงสิ่งเดียวที่ทำให้ชุมชนและธรรมชาติอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขและยั่งยืน ตอนนี้ชาวบ้านจำรุงตระหนักในความเป็นหนึ่งเดียวกันของสรรพสิ่งมากขึ้น แม้ว่าการใช้สารเคมีอาจจะยังไม่หมดสิ้นไปจากชุมชน แต่อย่างน้อยที่สุดชาวบ้านก็พยายามจะให้เหลือน้อยที่สุด และตั้งความหวังว่าทั้งชุมชนจะเลิกใช้โดยสิ้นเชิงในวันข้างหน้า ชุมชนจะพัฒนาได้อย่างไร ถ้าไม่เริ่มด้วยตนเอง |
หน้าแรก > เรื่องเล่าชุมชน >